ฟิลิปปินส์เกิดวิกฤติขาดแคลนไฟฟ้า
ขาดแคลนไฟฟ้าที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะลูซอน ของฟิลิปปินส์ ต้องเผชิญไฟดับ
การคาดหมายว่าความต้องการไฟฟ้าจะมีมากกว่าการคาดหมายของรัฐบาล ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างคอลล์เซนเตอร์ การท่องเที่ยว และการพนัน
บริษัทเอกชนจำนวนหนึ่งเร่งระดมทุน 9,000 ล้านดอลลาร์สำหรับสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าแห่งใหม่ แต่การก่อสร้างคาดว่าจะใช้เวลา 3 ปี อีกทั้งเสียงคัดค้านโรงงานถ่านหินยังทำให้โครงการล่าช้าออกไป
ที่ปรึกษาหอการค้าอเมริกันในฟิลิปปินส์กล่าวว่าแน่นอนที่จะมีการสร้างโรงงานใหม่ๆ แต่คำถามคือจะสร้างได้เร็วพอสอดรับกับความต้องการหรือไม่
เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวถึง 7.8% ช่วงไตรมาสแรก จนบริษัทสแตนดาร์ดแอนด์พัว และฟิทช์เรตติง ปรับขึ้นอันดับความน่าเชื่อถือ แต่การจัดหาไฟฟ้าถือเป็นการท้าทายหลักด้านโครงสร้างพื้นฐานในช่วงที่ประธานาธิบดีเบนิญโญ อคิโน กำลังผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีการสร้างโรงไฟฟ้าหลักแห่งใหม่เพียงแห่งเดียวบนเกาะลูซอน ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและพาณิชย์ ส่วนโรงไฟฟ้าอื่นสร้างขึ้นเมื่อวิกฤติไฟฟ้า 20 ปีที่แล้ว
ส่วนเกาะมินดาเนา ทางใต้ จะต้องเผชิญภาวะไฟดับไปถึงปี 2558 จนตัวแทนสมาคมผู้ส่งออกกล่าวว่าสภาพการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากต่อนักธุรกิจ
นายเซอร์จิโอ ออร์ทิส-หลุยส์ ประธานสมาพันธ์ผู้ส่งออก กล่าวว่าหากไม่มีการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ฟิลิปปินส์จะเจอปัญหาใหม่ภายในปี 2559
สมาคมคอนแทคเซนเตอร์ (Contact Centre) กล่าวว่าอุตสาหกรรมคอลล์เซนเตอร์ ซึ่งจ้างคนงาน 600,000 คน ตั้งเป้าขยายตัวปีละ 15% และมีรายได้ 15,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2559 แต่เป้าหมายดังกล่าวยากจะบรรลุหากเกิดวิกฤติพลังงาน
แผนการล่าสุดของกระทรวงพลังงานระบุว่า ศักยภาพในการกำเนิดไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศ คาดว่าจะขึ้นถึง 15,300 เมกะวัตต์ปีนี้ และฟิลิปปินส์ต้องมีศักยภาพในการผลิตเพิ่มอีก 2,500 เมกะวัตต์ในเวลา 4 ปีจนถึงปี 2560
เกาะลูซอนต้องการไฟฟ้าเพิ่ม 1,600 เมกะวัตต์ภายในปี 2560 แต่สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระระบุว่าเกาะลูซอนจะต้องการไฟฟ้าอีก 3,280 เมกะวัตต์ภายในปี 2560 หรือ 2 เท่าของประมาณการของทางการ ส่วนฟิลิปปินส์ทั้งประเทศจะต้องการไฟฟ้าเพิ่มอย่างน้อย3,860 เมกะวัตต์ เพราะเศรษฐกิจขยายตัวสูงกว่าที่คาดไว้ และความต้องการใช้ไฟก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
บริษัทเครือรายใหญ่ในฟิลิปปินส์ต่างอยากสร้างโรงงานไฟฟ้า หรือเพิ่มศักยภาพโรงงานเดิมที่มีอยู่ในช่วง 5 ปีหน้า ประธานบริษัทซานมิเกล ผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ กล่าวว่าหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าทุกคนกำลังวางแผนเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน
โครงการที่กำลังวางแผนอยู่ในปัจจุบันจะมีกำลังผลิต 4,400 เมกะวัตต์ แต่หลายโครงการมีแนวโน้มจะล่าช้าออกไป
นอกจากนั้น บริษัทที่เล็งสร้างโรงงานใหม่ ยังวิตกที่จะทุ่มทุนหากไม่มีการรับรองผู้ซื้อเชิงอุตสาหกรรมระยะยาว อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ก็วิตกเกี่ยวกับข้อตกลงระยะยาวที่มีการกำหนดราคาตายตัว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยิ่งทำให้โครงการล่าช้าออกไปอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น