วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

โอม มันตราเรียบง่ายที่ยิ่งใหญ่


คำว่า ออมนี (Omne) ในภาษาลาติน กับคำว่า โอม (Aum) ในภาษาสันสกฤต มีพื้นฐานความหมายเดียวกัน คือ ความรอบรู้ ความงอกงาม และพลังอำนาจอันเป็นนิรันดร์ เมื่อเปล่งเสียง โอม มีพยัญชนะสามพยางค์ประกอบกัน คือ อา(A) เป็นสัญลักษณ์ของภาวะการตื่น อู(U)  เป็นสัญญลักษณ์ของภาวะฝัน อืม(M) เป็นสัญญลักษณ์ของภาวะหลับลึกปราศจากความฝัน เมื่อเชื่อมโยงด้วยสัญญลักษณ์รูปเสี้ยวจันทร์ สัญญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่าน และจุด สัญญลักษณ์ของการหลุดพ้นสู่การตื่นรู้ที่สมบูรณ์ ที่ด้านบนรวมกันเป็น โอม (Aum)  เป็นสัญญลักษณ์แสดงภาวะสมาธิ โอม (Aum) แล้วยังมีความหมายต่างๆ อย่างลึกซึ้งได้แก่
  1. การดำรงอยู่ของจิตวิญญาณ ด้วยผ่านคำพูด จิตใจ และปราณ
  2. การดำรงอยู่ของรูปกาย ด้วยผ่านขนาดรูปร่าง รูปทรง
  3. การเป็นผู้อริยะด้วยการดับสิ้นไปของความปราถนา ความกลัว และความโกรธ
  4. การเป็นส่วนหนึ่งของพระผู้สร้าง คือ ความเป็นเพศชาย ความเป็นเพศหญิง และความไร้เพศ
  5. การถอดถอนกายใจออกจาก ความดี ความเเลว ความเปลี่ยนแปรได้
  6. การระลึกถึงพระผู้สร้างผู้อยู่เหนือกาลเวลาทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
  7. คารวะคำสั่งสอน พ่อ แม่ ครูอาจารย์ ที่สั่งสอนให้เรียนรู้ตัวตนที่ชัดเจน
  8. หลักฝึกปฏิบัติ 3 ประการของโยคะ คือ อาสนะ ปราณายามะ ปรัตยาหาระ เพื่อก้าวสู่ภาวะสมาธิ
  9. ภาวะหลุดพ้นจากการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีพระพรหมหรือการเกิดขึ้น พระวิษณุหรือการตั้งอยู่ พระศิวะหรือการดับไปเป็นสัญญลักษณ์
  10. การเป็นอิสระจาก ร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และอหังการ
  11. บี เค เอส ไอเยนการ์ หนึ่งในปรมาจารย์โยคะได้รจนาถึงความสำคัญของโอมว่า โอมนี้เปรียบเหมือนคันธนู จงใช้ร่างกายเป็นเหมือนลูกศร และมีภาวะของการหลุดพ้นเป็นเป้าหมาย

ที่มา  https://yogayoucan.wordpress.com/2016/03/06/%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2/

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559

"น้ำสลัดแซนวิช สีเหลือง" อันล่ะ 5 บาท ตอนเด็กๆกินกัน จำได้ไหม...สูตรพร้อม!!!


สูตร

1.ไข่ต้มสุก (เอาเฉพาะไข่แดง 1 ฟอง)
2. น้ำมันพืช  ประมาณ 1/2 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทรายแดง (หอมหวานกว่าน้ำตาลทรายขาว) 1/4 ถ้วยตวง
4.นมข้นหวาน 1/4 ถ้วยตวง
5.เกลือ ครึ่ง ช้อนชา 
6.พริกไทยนิดหน่อย
7.น้ำมะนาว ครึ่งลูกเล็ก


วิธีทำ

นมข้นหวานผสมน้ำตาล เข้าไมโครเวฟประมาณ 20 วินาที แล้วเอาออกมาตีผสมกัน จนน้ำตาลละลาย 
จากนั้นใส่ส่วนผสมที่เหลือ ตีรวมกันจนเนื้อเนียนค่ะ ชิมรสให้ได้หวานนำ และเค็มตาม นิดๆ เสร็จจร้า ทาขนมปัง กันได้เลยจร้า


ขอขอบคุณสูตร @คุณ ชุ ตา

ที่มา http://www.startclip.com/news6023.html

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

รวม 50 ประโยชน์ดีๆ จากเบคกิ้งโซดา ที่คุณควรรู้ไว้


เบคกิ้งโซดา หรือที่เรียกกันว่าโซเดียมไบคาร์บอเนต คือสารเคมีเอนกประสงค์ที่มีประโยชน์มากมายมหาศาลสำหรับงานบ้านงานเรือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานทำความสะอาด หรือการทำอาหารต่างๆ ซึ่งเราสามารถหาซื้อเจ้าเบคกิ้งโซดาได้ง่ายๆ ตามร้านค้าทั่วไป อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงอีกด้วย

สำหรับในคราวนี้ ในบ้าน ก็มีประโยชน์ดีๆ ที่ควรรู้เกี่ยวกับเบคกิ้งโซดา มาให้ชาวเว็บได้ชมกันครับ โดยเจ้าเบคกิ้งโซดาเนี่ยมีประโยชน์ใช้สอยหลอกหลายถึง 51 ข้อกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นของใช้ในบ้านที่จะขาดไม่ได้เลยนะ ลองไปดูกันเลยครับว่าเบคกิ้งโซดามีประโยชน์อะไรบ้าง

1. แก้เจ็บคอ

ผสมเบคกิ้งโซดาครึ่งช้อนชาลงในน้ำเปล่า ใช้กลั้วคอทุกๆ 4 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการเจ็บคออันเกิดจากกรด รวมทั้งยังช่วยรักษาแผลในช่องปากได้อีกด้วย…

2. ดับกลิ่นปาก

สูตร 1 ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะ ในน้ำ 1 แก้ว ดับกลิ่นหอมกลิ่นกระเทียมได้ ถ้าใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 1 แก้ว และผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากได้

3. ขจัดกลิ่นเหม็นอับอกจากผ้านวม

ฟ้าห่มหลังจากทที่คุณเก็บไว้นานๆ โรยเบ๊กกิ้งโซดาลงบนผ้านั้น ม้วนเก็บไว้สัก 2 ชั่วโมง จากนั้นสะบัดออกและตบให้ฟูหรือใช้ไดร์เป่าลมให้ฟูโดยไม่ใช้ความร้อนเป่า

4. สครับขัดหน้า

สูตร 1 เอาเบคกิ้งโซดา 3 ส่วน น้ำเปล่า 1 ส่วน ผสมกันให้ได้เปียกๆแล้วขัดหน้าเบาๆหน้าจะสะอาดดีค่ะ

5. สครับขัดผิว?

เบคกิ้งโซดาครึ่งถ้วย เกลือครึ่งถ้วย มะนาว 1 ลูก น้ำมันทาผิว 2 ช้อนโต๊ะ เอาผสมกันก่อนจะใช้แล้วก็เอามาขัดผิวระหว่างอาบน้ำค่ะ

6. สปาเท้า

เบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วย เกลือทะเล 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมินต์ และน้ำอุ่นใส่ในกะละมังแช่เท้า แช่แล้วสบายเท้าดี จะช่วยฆ่าเชื้อโรค ดับกลิ่นเท้า รวมทั้งความร้อนจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้าได้อีกด้วย

7. บรรเทาอาการผิวไหม้แดด

ผสมเบคกิ้งโซดาลงในน้ำอุ่นสำหรับอาบ จะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนที่เกิดจากผิวไหม้แดดได้

8. แช่น้ำอุ่น

หากคุณอยากผ่อนคลาย เบกกิ้งโซดาก็สามารถช่วยได้เช่นกัน โดยคุณเพียงแค่ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปในน้ำอุ่นที่คุณจะแช่ตัว เท่านี้ก็จะเหมือนพักผ่อนอยู่ในสปาเลยทีเดียว

9. ทำความสะอาดเส้นผม

ผสมเบกกิ้งโซดาหนึ่งช้อนชาเข้ากับแชมพูสระผมตามปกติของคุณ เพื่อช่วยขจัดสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์แต่งผม (วิธีนี้จะดีเป็นพิเศษกับผมเส้นเล็ก)
Advertisement
ช่วยทำให้หนังหุ้มเล็บนุ่มขึ้น
เติมเบกกิ้งโซดาประมาณหนึ่งหยิบมือลงในชามน้ำอุ่น แล้วแช่มือไว้ในนั้นเป็นเวลาสองสามนาที ก่อนจะล้างน้ำให้สะอาด ก็จะช่วยให้หนังหุ้มเล็บนุ่มขึ้นได้

10. ฮ่องกงฟุต

อาการคันตามง่ามเท้าเพราะติดเชื้อราหรือที่เราเรียกว ่า ฮ่องกงฟุต อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ยารักษาเชื้อราในบ้านบางทีคุณอาจมียารักษาเชื้อราอยู ่แล้วคือ เบคกิ้งโซดา สามารถลดอาการคันและแสบร้อนตามง่ามนิ้วเท้า ใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำพอให้เหนียวๆ แล้วนำมาทาที่เท้า จากนั้นล้างเท้าและเช็ดให้แห้ง ปิดท้ายด้วยการทาแป้งข้าวโพดบริเวณที่คัน ยาตำรับต่อไปนี้แม้ว่าจะฟังดูแปลกสักหน่อย แต่ล้วนได้รับคำรับรองจากผู้ที่ทดลองใช้มาแล้วว่าได้ ผลชะงัด ได้แก่ แอลกอฮอล์เช็ดแผล น้ำส้มไซเดอร์หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (apple cider vinegar) ผงกระเทียม สเปรย์ใส่ผม และน้ำผึ้ง ให้คุณเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ทาวันละ 3-4 ครั้ง

11. บรรเทาอาการลมพิษ

วิธีคือ ใช้ผงเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำ 2-3 หยดพอให้เป็นแป้งเปียก ทาบริเวณผื่นเพื่อลดการระคายเคืองและแก้คัน

12. ยาลดกรด

ใครที่เกิดอาการแน่นท้องไม่ต้องไปซื้อยาแพงๆให้เปลือง เพราะคุณสามารถจัดการเองได้ง่ายๆ ด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่าธรรมดา ๆ อย่างละครึ่งถ้วยนี่แหละ

13. น้ำยาล้างสารพิษจากผักและผลไม้?

นำเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 10 ลิตร แช่ผักผลไม้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง สามารถลดสารพิษได้ 90%

14. น้ำยาล้างคราบในกาน้ำชาที่เป็นโลหะ

ใส่น้ำลงในกาน้ำชาแล้วเติมเบคกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก ต้มราวๆ 15 นาที ขัดและล้างจะสะอาดง่าย

15. ครีมลบรอยขูดขีดเครื่องครัว

ละลายเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 1 ลิตร ทำความสะอาดเครื่องครััวที่ทำด้วยฟอร์ไมก้า สเตนเลส พลาสติก โครเมี่ยม (ยกเว้นอะลูมิเนียม) ริ้วรอยจะเลือนหายไป

16. น้ำยาทำความสะอาดเตาไมโครเวฟ

นำเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 1 ลิตร นำผ้ามาชุบแล้วเช็ดทำความสะอาดภายใน คราบสกปรกจะเช็ดออกง่าย

17. หมักหมูนุ่ม

ใส่นิดเดียวค่ะ หมักหมูก็จะนุ่ม ถ้าใส่มากเกินจะมีกลิ่นสารเคมี

18. ดับไฟในกะทะ

ในกรณีที่มีน้ำมันกระเด็นติดไฟนิดๆขณะทำอาหาร หรือว่าไฟติดในกะทะ อย่าเทน้ำลงไป เพราะว่าการเทน้ำลงไปบนน้ำมันที่ร้อนๆอยู่จะทำให้ไฟล ุกมากขึ้นเนื่องจากน้ำมันกระจาย ให้ใช้เบคกิ้งโซดาค่ะ แห้งๆนั่นแหละ เทลงไปตรงๆเบกกิ้งโซดาพอโดนความร้อนมันจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาช่วยทำให้ไฟลดน้อยลงได้ค่ะ

19. ทำเค้กให้ฟูนุ่มน่ากิน

ก็ต้องมีเบคกิ้งโซดาเป็นส่วนผสม

20. ถ้าอยากได้ไข่เจียวฟูหอมอร่อยน่ากิน

ก็ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปครึ่งช้อนชาต่อไข่ 3 ฟอง ก็จะทำให้ไข่เจียวดูฟูน่ากินทันตาเห็น

21. เวลาที่ถูกแมลงต่อย

คุณก็สามารถใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำทาบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้เช่นกัน

22. ดับกลิ่นอับในตู้เย็น

เบคกิ้งโซดาจะดูดกลิ่นอับในตู้เย็น หากคุณนำไปใช้ดูดกลิ่นในตู้เย็น ให้เปิดฝากล่องด้านบนออกให้หมด หรือเทใส่ถ้วย ทิ้งไว้ด้านในสุดของตู้แล้วคอยเปลี่ยนทุก 3 เดือน

23. ขจัดคราบไขมันที่ติดรอบท่ออ่างล้างจาน

ถ้าปล่อยไว้นานๆ จะเป็นเหตุให้ท่ออุดตันได้ มีวิธีทำคือ นำเกลือแกงใส่ลงไปในท่อ 2-3 ช้อน จากนั้นนำเบคกิ้งโซดา ไปต้มกับน้ำให้ เดือดแล้วเทลงไปไขมันที่อุดตัน ก็จะหลุดออกไปหมด

24. ปัญหาเรื่องท่ออุดตันด้วยคราบไขมันในอ่างล้าง

ให้โรยเกลือรอบๆ ขอบท่อ จากนั้นนำน้ำยาเบคกิ้งโซดา 10 ช้อนโต๊ะผสมน้ำร้อนๆ 1 ขวดลิตร ค่อยๆ เทลงไป เกลือและน้ำยาจะช่วยให้คราบไขมันหลุดออกง่ายขึ้น และทำซ้ำอีก 2-3 รอบ ตามด้วยน้ำเปล่าปิดท้าย หากคราบยังไม่ยอมออกก็คงต้องพึ่งช่างแล้วค่ะ

25. ทำความสะอาดเขียง

ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำทำความสะอาดเขียง จะช่วยทำให้เขียงหมดกลิ่นคาว
หากครัวของคุณเต็มไปด้วยคราบมัน?การใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูอย่างละ 1 ถ้วยเช็ดสามารถช่วยขจัดคราบเหล่านั้นให้คุณได้

26. ขจัดกลิ่นเหม็นสาปที่ติดอยู่ภายในกระติกน้ำแข็ง

นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำร้อน แล้วนำมาล้างถูภายในกระติกน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำอีกครั้งกลิ่นเหม็นสาปก็จะหายไป

27. น้ำยาล้างคราบในกาน้ำชาที่เป็นโลหะ

ใส่น้ำลงในกาน้ำชาแล้วเติมเบกกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก ต้มราวๆ 15 นาที ขัดและล้างจะสะอาดง่าย

28.น้ำยาทำความสะอาดเครื่องสุขภัณฑ์

เทเบคกิ้งโซดา 1/2 กล่องลงในถังนำหลังชักโครก ทิ้งไว้ 1 คืนแล้วค่อยกดชักโครก

29. น้ำยาดับกลิ่นพรม

ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยกับแป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย หยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นโปรดลงไป 15 หยด ใส่ขวดสเปรย์ฉีดบนพื้นพรมก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้า กลิ่นพรมจะสะอาดสดชื่น

30. น้ำยาซักผ้าขาวสะอาด

สูตร 1. ใส่ผงเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วนในเครื่องซักผ้าพร้อมกับน้ำยาซักผ้า จะทำให้ผ้าขาวและสีจะสดขึ้น
สูตร 2. ใช้ตอนซักผ้า ใส่เบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยลงในน้ำสุดท้ายที่กำลังจะล้างฟองออกจะทำให้ผ้ากลิ่นสะอาดขึ้น

31. ดับกลิ่นอับของเสื้อผ้าที่เราสวมใส่

เมื่อจะใช้ให้ผสมเบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วย (1 ถ้วย = 16 ช้อนโต๊ะ) กับผงซักฟอกชนิดน้ำปริมาณที่คุณใช้ แทนที่คุณจะใช้สารฟอกขาวชนิดคลอไรด์ถึงถ้วยหนึ่งเต็ม ๆ คุณสามารถใช้เพียงครึ่งหนึ่งเข้าไปแทนที่ได้ Mi Ju Ha Ha Hu Vi Vi Sa Si Sa Ha Da Da Fi Mi Tu Ps Co Pa Bi Ka Sp Br Fa แต่ก็อย่าลืมว่าถึงเบกกิ้งโซดาจะใช้ซักเสื้อผ้าได้ แต่มันก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการซักเท่ากับผงซักฟอก เบคกิ้งโซดาจึงเป็นเพียงส่วนเสริมให้ผ้าสะอาดมากขึ้น เท่านั้น

32. ใช้ล้างแปรงและหวี

เอาเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ผสมน้ำอุ่นในชามอ่างเล็กๆ แช่หวีกับแปรงไว้ค่ะ มันจะทำให้พวกคราบต่างๆหลุดออกได้ง่าย

33. ทำความสะอาดที่ดัดฟัน (retainers)

เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนชาผสมกับน้ำอุ่น 1 ถ้วย แช่ทิ้งไว้สักพักแล้วเอาแปรงขัดๆปัดๆคราบออก

34. ดับกลิ่นแมว

ให้เอาเบคกิ้งโซดาเทลงไปใน litter box ของแมว ก่อนที่จะใส่ litter หลังจากนั้น ทุกครั้งที่คุณทำความสะอาด litter box พอตักอึแมวไปแล้วก็เอาเบกกิ้งโซดาโรยนิดๆด้านบนเพื่อ เป็นการกลบกลิ่นค่ะ

35. พื้นผิวสิ้นคราบสกปรก

สำหรับพื้นผิวแข็งๆ เช่น พื้นครัว พื้นห้องน้ำ อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ให้ละลายเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 4 ถ้วย เช็ดทำความสะอาด แล้วค่อยล้างออก ในกรณีที่มีคราบสกปรกทำความสะอาดยาก ให้ผสมเบกกิ้งโวดากับน้ำอุ่นในปริมาณที่เท่ากันข้นจน เป็นแป้ง จากนั้นให้พอกทิ้งไว้บริเวณที่มีคราบสกปรก อย่างเช่น บนเคาน์เตอร์ หรือจานกระเบื้องสัก 1 ชั่วโมงแล้วค่อยเช็ดออก

36. เช็ดเตารีด

ใช้ผ้าชุบน้ำผสมเบคกิ้งโซดาบิดพอหมาด นำไปเช็ดใต้เตารีด หรือเครื่องครัว ที่ทำด้วยฟอร์เมก้า สแตนเลส โครเมี่ยม จะทำความสะอาดได้หมดจดไม่เกิดรอยขูดขีด

37. ดับกลิ่นพรม

โรยเบคกิ้งโซดาให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที แล้วดูดออก

38. สำหรับพรมที่เปื้อนคราบน้ำมัน

ให้เทน้ำผสมเบคกิ้งโซดาลงตรงบริเวณที่เปื้อนคราบน้ำม ัน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง คราบก็จะจางลง จากนั้นให้ใช้น้ำผสมเบกกิ้งโซดาเช็ดทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง

39. กลิ่นรองเท้า

ปัญหาใหญ่ของใครหลายคนเพราะรองเท้าถูกใช้งานทั้งวัน เก็บหมักหมมเหงื่อไคลความอับชื้นง่ายมาก วิธีก็คือ โรยเบคกิ้งโซดาในรองเท้า แล้วนำรองเท้าคู่นั้นใส่ถุงพลาสติกรัดให้แน่น นำไปแช่ช่องแช่แข็งของตู้เย็นไว้ 1 หรือ 2 คืน นำรองเท้าออกมาทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง แล้วเอาไปสลัดผงเบคกิ้งโซดาออกให้หมดแล้วสวมได้เลย แต่หากเรายังไม่สวมทันทีให้ปล่อยผงเบคกิ้งโซดาไว้อย่างนั้นก่อนจนกว่าจะนำมาสวม หรือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์อัดเป็นก้อนมาใส่ด้านในรอง เท้า หมึกของกระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดกลิ่น และยังทำให้รองเท้าอยู่ทรงด้วย ทุกครั้งที่กลับบ้านให้ใส่กระดาษหนังสือพิมพ์ทุกครั้ง และเปลี่ยนแผ่นใหม่ทุกอาทิตย์

40. ทำความสะอาดเครื่องปิ้งขนมปัง

เอาผงเบกกิ้งโซดาโรยลงบนผ้าเปียกแล้วเอาไปเช็ดตามตะแกรง?จะช่วยให้เครื่องปิ้งขนมปังของคุณกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ได้

41. กำจัดรอยไหม้ตามหม้อหรือกระทะ

เอาเครื่องครัวเหล่านี้ไปแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมเบกกิ้งโซดาพอประมาณสัก 15 นาทีก่อนจะล้างออก ก็จะช่วยให้รอยไหม้เลือนหายไปได้

42. ทำความสะอาดครื่องชงกาแฟ

ด้วยการโรยเบกกิ้งโซดาลงไปพอประมาณ แล้วกดให้เครื่องทำงานตามปกติ ก็จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะติดให้น้อยลงได้

43.ล้างหน้าต่างบานเกล็ด

น้ำอุ่นที่ผสมเบ๊กกิ้งโซดา 3/4 ถ้วยตวงราดน้ำให้เปียกทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง ก่อนใช้แปลงขัดออก

44. รอยด่างเป็นวงหรือรอยจุดบนเฟอร์นิเจอร์ไม้

หากเกิดความร้อนบางครั้งก็อาจขัดออกได้ด้วยการผสมยาสีฟัน และเบ๊กกิ้งโซดาในสัดส่วนเท่าๆ กันใช้ผ้านุ่มเช็ดออกเบาๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดเงาด้วยก็ได้หากจำเป็น
ขจัดคราบหยดน้ำบนพื้นไม้โดยการใช้เบ๊กกิ้งโซดากับกับผ้าขี้ริ้วหมาดๆ เช็ดออกจำไว้ว่าเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ไม่ควรทำให้เปียก

45. สีเทียนบนผนัง

ใช้ฟองน้ำเปียกๆ เช็ดเบ๊กกิ้งโซดาเพื่อเช้ดคราบสีเทียนที่ติดบนผนังล้างๆ เช็ดถูเบาๆ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกส่วนใหญ่อื่นๆ รวมทั้ง คราบน้ำมัน ดินสอ และปากกา มาร์คเกอร์ได้ด้วย

46. ช่อมรอยร้าว

ผสมเบ๊กกิ้งโซดากับน้ำเล็กน้อยให้เปียกๆ ข้นๆ เพื่ออุดรูตามผนังที่มีรอยปูนแตกร้าว เพื่อซ่อมแซมเป็นการชั่วคราว เมื่อมันแห้งแล้วจะดูกลมกลืนเข้ากับฝาผนังปูนพลาสเตอร์ขาว เมื่อต้องการซ่อมแซมอย่างถาวรให้ผสมมผงฟูกับกาว (ลาเท็กซ์) ซ่อมแซมสีขาวที่ใช้ตามบ้านเรือน

47. ทำความสะอาดแป้นพิมพ์คีบอร์ด

ด้วยแปลงสีฟันขนอ่อนๆ ขัดโดยใช้เบ๊กกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะละลายกับน้ำ 1 ถ้วยตวง จากนั้นใช้กระดาษชำระเช็ดออก

48. ทำความสะอาดไม้ถูพื้น

แช่ไม้ถูพื้นหรือไม้กวาดในน้ำ 1 ถัง ละลายเบ๊กกิ้งโซดา 4 ช้อนชา แต่ให้แช่หลังจากที่ชำระสิ่งสกปรกออกไปแล้ว วิธีนี้จะเป็นการกำจัดกลิ่นเหม็นอับตกค้างบนไม้ถูพื้นหลังแช่ตากให้แห้งบ้านสุขภาพดี

49. ทำความสะอาดกระเป๋าเดินทาง

ป้องกันไม่ให้ภาชนะกระเป๋าเดินทางขิงคุณมีกลิ่นเหม็นอับเหม็นชื้นจากเชื้อรา Ka Mi Pu Jo Al Gl Sa Mi Mi Ba Na Na El El Gu Th Th Ju Ba Ba Ma Ca Tr โยดการโรยเบ๊กกิ้งโซดาลงบนภาชนะข้าวของเครื่องใช้ก่อนที่จะเก็บเข้าที่เข้าทางอย่างมิดชิด

50. เล่นศิลปะกับลูก

แค่นำสีผสมอาหารมาผสมกับน้ำส้มสายชูและนำไปหยดใส่ผงเบกกิ้งโซดา ผงเบกกิ้งโซดาก็จะเกิดฟองสีขึ้นทันที สามารถนำสีหลายๆสีมาเล่นผสมสีกันได้ เด็กๆจะตื่นเต้นกันมากเวลาผงเบกกิ้งโซดาฟูขึ้นมาเป็นฟองแล้วแตกออก
ที่มา : nirasoomwan

วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

ออส่วน 3 สูตร +เคล็ดลับ

ออส่วน 3 สูตร +เคล็ดลับ 

ออส่วนสูตรที่ 1

เครื่องปรุง สูตรโดย หมึกแดง
- หอยนางรมลวก 1 ถ้วยตวง
- แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
- ไข่เป็ด 2 ฟอง
- เกลือพอประมาณ
- พริกไทยป่นพอประมาณ
- ต้นหอมซอยพอประมาณ
- ผักชีซอยพอประมาณ
- ถั่วงอกพอประมาณ
- ซอสพริก

วิธีทำ
1. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันให้ร้อน ใช้ไฟแรง

2. อีกภาชนะใส่หอยนางรมที่ลวกแล้วผสมกับแป้งมัน เกลือ พริกไทย น้ำ ต้นหอมซอยคนให้เข้ากัน เทลงไปผัดในกระทะ

3. ตอกไข่ใส่ชามตีให้ฟู และเทราดลงไปในส่วนผสมในกระทะ คนให้ส่วนผสมแยกออก

4. นำกระทะอีกใบตั้งไฟใส่น้ำมันลงไปพอร้อน นำถั่วงอกลงไปผัด พอน้ำมันเคลือบถั่วงอกตักใส่จาน แล้วเทหอยนางรมที่ผัดแล้วลงไปข้างบนถั่วงอก โรยหน้าด้วยพริกไทย ผักชี เสิร์ฟคู่กับซอสพริก
---------------------------------------------
ออส่วนสูตรที่ 2

เครื่องปรุง(สำหรับ 4 คน)
-หอยนางรมสดแกะเปลือกแล้ว 1 ขีด
-ต้นหอม 4 ต้น
-ไข่ไก่ 2 ฟอง
-แป้งมัน
-น้ำมันพืช
-ซีอิ้วขาว
-พริกไทยป่น
-ผงชูรส

วิธีทำ
1. นำหอยนางรมมาลวกน้ำร้อน ระวังอย่าให้สุกเกินไป แล้วเอาขึ้นใส่ชาม

2. ต้นหอมตัดเป็นท่อนๆ ขนาดประมาณ 1 นิ้ว เอาต้นหอมใส่ลงไปในชาม หอยนางรมใส่ซีอิ้วขาว พริกไทยป่น ผงชูรส

3. เอาแป้งมันละลายกับน้ำเล็กน้อยใส่ลงในชามด้วย เคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน

4. ต่อยไข่ใส่ชามอีกใบหนึ่งต่างหาก ตีไข่พอแตก

5. เอากะทะก้นแบนตั้งไฟพอร้อนใส่ไข่ลงไป ใช้ตะหลิวคนไข่ให้ทั่ว อย่าให้ไข่จับกันเป็นแผ่น แล้วเขี่ยไข่ไว้ข้างหนึ่งของกะทะ

6. ใส่หอยนางรมที่เคล้าเครื่องปรุงไว้ ลงในกะทะผัดพอสุก

7. ตักไข่ที่สุกแล้วใส่จานก่อนแล้วตักหอยนางรมที่ผัดไว้ราดทับบนไข่ รับประทานร้อนๆ
---------------------------------------------------------
ออส่วนสูตรที่ 3 (เพิ่มสูตรกรอบ)

เครื่องปรุง
-หอยนางรม 1 ถ้วยตวง
-แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
-ไข่ไก่ 2 ฟอง
-เกลือ
-พริกไทยป่น
-กระเทียมสับ
-น้ำมันพืช
-ต้นหอมซอย
-ผักชีซอย
-ถั่วงอก
-ซอสพริก (ใส่น้ำขิงดองนิดนึงรสชาติจะกลมกล่อมขึ้นค่ะ)
-ซิอิ๊วขาวหรือซอสถั่วเหลือ
-น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. เอาหอยนางรมล้างน้ำให้สะอาด (ล้างหลายๆ น้ำ) กะว่าล้างจนน้ำใสค่ะ

2. เอาแป้งมันละลายน้ำ ใส่เกลือ พริกไทย ซิอิ๊วขาวหรือซอสถั่วเหลือง คนให้เข้ากัน

3. ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่กระเทียมผัดพอเหลือง ใส่ไข่ ใส่หอยนางรม พร้อมกันทันที(อย่าให้ไข่สุก)

4. เอาแป้งมันในข้อ 1 ใส่ลงไปผัดให้เร็วๆ กะพอเหนียว แล้วผัดไปไว้ข้างๆ กระทะพักไว้แป๊บนึง

5. ใส่ถั่วงอกลงไปอีกข้างนึงตรงที่ว่างของกระทะกะว่าผัดพอสุก

6. ตักใส่จานโดยการนำถั่วงอกไว้ด้านล่าง แล้วนำหอยนางรมที่ผัดเสร็จแล้วไว้ด้านบน

7. โรยหน้าด้วย ต้นหอม ผักชี และพริกไทย เสิร์ฟคู่กับซอสพริก

เคล็ดลับ
1. เวลาผัดไข่และหอยนางรม ต้องระวังอย่าให้ไข่สุกก่อนใส่หอยนางรม
มิฉะนั้นหอยและไข่ก็แยกกันเป็นชิ้นไม่เกาะกันและไม่เหนียว

2. หลังจากใส่แป้งมันลงในกระทะต้องผัดให้เร็ว มิฉะนั้นแป้งจะจับกันเป็นก้อน ผัดแล้วแป้งจะไม่ใส

3. ถั่วงอก อย่าผัดสุกมาก เพราะเวลาจัดใส่จานถั่วงอกจะอยู่ใต้หอยนางรมอีกทีถ้าผัดสุกมากถั่วงอกจะเละ เพราะหอยนางรมร้อนจะไปอบถั่วงอกอีกที

Cr. สูตรอาหาร http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=12-2008&date=28&group=3&gblog=152
Cr. ภาพอาหาร http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=yui-chan&month=12-2010&date=14&group=36&gblog=15

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

วิธีการปักชำกิ่งมะนาวแบบสูญญากาศ


กิ่งต้องไม่อ่อน ไม่แก่จนเกินไป!
ตัดกิ่งมะนาวความยาวประมาณ 1 คืบ
กริดโคนกิ่งเป็นร่อง 2-3 ร่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการแตกราก
จุ่มกิ่งชำในน้ำยาเร่งรากเข้มข้น ประมาณ 10 วินาที
สังเกตุจะเห็นน้ำยาเร่งรากซึมติดอยู่ในรอยกรีด
เตรียมดินสำหรับปักชำ ใช้หน้าดิน 1 ส่วน ผสมขุยมะพร้าว 1 ส่วน รดน้ำให้ดินชุ่ม
นำกิ่งมะนาวที่จุ่มน้ำยาเร่งรากแล้วปักลงกระถาง ปักพอดีๆ อย่าให้เน้นกระถางจนเกินไป
รดน้ำให้ชุ่มอีกครั้ง
นำถุงพลาสติกมาครอบปากกระถาง เพื่อควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และ ลดการคายน้ำ
ผ่านไป 20-30 วันเมื่อสังเกตเห็นการแตกยอดเล็กๆ ก็ให้เอาถุงพลาสติกออก

เมื่อกิ่งตอนสมบูรณ์ดีแล้วก็สามารถแยกกิ่งลงถุงชำได้เลย!
ขอขอบคุณ ที่มา
สวนไผ่ อาบู



วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559

น้ำจิ้มลูกชิ้นมะขามเปียก


น้ำจิ้มลูกชิ้นมะขามเปียก
ส่วนผสม
1.พริกชี้ฟ้าแดง 500 กรัม
2.กระเทียมแกะเปลือกออกให้เกลี้ยง 300 กรัม
3.มะขามเปียกคั้นน้ำแล้ว 300 กรัม(หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับรสชาติของมะขาม)
4.น้ำตาลปีบ 700 กรัม
5.น้ำตาลทราย 300 กรัม
6.เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
7.มะเขือเทศ 500 กรัม
วิธีทำ
1.นำมะขามเปียกแช่น้ำแล้วแล้วคั้นเอาแต่น้ำและเนื้อมะขาม จากนั้นนำไปใส่โถปั่น ปั่นให้ละเอียด
2.ใส่น้ำตาลปีบและน้ำตาลทรายลงในหม้อนำไปตั้งไฟเคี่ยวด้วยไฟกลางรอจนกว่าน้ำตาลละลาย 3.นำพริกชี้ฟ้า กระเทียม มะเขือเทศ น้ำมะขามเปียก ใส่โถปั่นอาจเติมน้ำเปล่าได้เล็กน้อยปั่นจนละเอียดตามที่เราต้องการ นำส่วนผสมทั้งหมดไปเทใส่หม้อน้ำเชื่อมเติมเกลือป่น ชิมรส เคี่ยวต่อโดยใช้ไฟกลางจนน้ำเชื่อมเริ่มเหนียว พักไว้ให้เย็นนำเข้าตู้เย็นเก็บไว้ขายได้หลายวันค่ะ
4.สำหรับสูตรเผ็ดน้อยให้ลดจำนวนพริกลง
สูตรน้ำจิ้มรสเด็ดสามารถเพิ่มลดส่วนผสมได้เล็กน้อย เพื่อให้ได้รสที่กลมกล่อมการทำน้ำจิ้มลูกชิ้น เพื่อขายคู่กับลูกชิ้นปิ้งเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน ควรทำอย่างน้อย 2 สูตร คือสูตรเผ็ดมากและเผ็ดน้อย หรือทำน้ำจิ้มสำหรับเด็กโดยไม่ใส่พริก เมื่อทานคู่กับผักสดจะทำให้ได้รสชาติยิ่งขึ้นค่ะ

ขอบคุณที่มาสูตร http://datacatalog.org/%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A…/
ขอบคุณภาพ ลูกชิ้นป้านก สถานีรถไฟบุรีรัมย์ อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/r…/02358cdf66ee492fb7544e97c63eaf4…
เครดิภาพเว้บ http://lekkathaifood.blogspot.com/2011/06/blog-post_586.html
ที่มา.Chomphoonut Panomai .