วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

โยคะช่วยลดความอ้วนจริงหรือ.....แล้วประโยชน์อย่างอื่นล่ะ ?

นอกเหนือจากการมีรูปร่างที่ดีแล้ว โยคะให้ประโยชน์อะไรกับผู้ฝึกอีกบ้าง

ปัจจุบันโยคะถือเป็นการออกกำลังกายยอดนิยม ส่วนใหญ่สาวๆ ให้เหตุผลว่าเล่นโยคะแล้วร่างกายฟิตแอนเฟิร์ม หรือการเล่นเป็นประจำเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้มีรูปร่างที่ผอมเพรียวและร่างกายที่ยืดหยุ่นดี หากแท้ที่จริงแล้วโยคะอันเป็นศาสตร์ที่กำเนิดขึ้นมานานกว่า 2000 ปีนั้น ให้ประโยชน์แก่ผู้ฝึกอย่างไร

ประโยชน์ทางด้านร่างกาย 

•ร่างกายมีความยืดหยุ่น(Flexibility): ร่างกายของผู้ฝึกโยคะจะได้รับยืดเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ผู้ที่ต้องอยู่ในท่าเดิมๆ เป็นเวลานานๆ ทำให้ร่างกายตึงและยึด เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะฝึกโยคะ


•เพิ่มความแข็งแรง (Strength): ท่าโยคะหลายท่าที่ผู้เล่นจะต้องแบกน้ำหนักของตัวเองในรูปแบบที่แต่งต่างจากในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่นท่า Plank (ลักษณะเหมือนท่าวิดพื้น แต่แขนตรง ไม่งอข้อศอก)
•มีกล้ามเนื้อที่ได้สัดส่วน: ผลพวงของการมีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นคือร่ายกายจะมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น และกล้ามเนื้อที่ได้จะได้สัดส่วนทั่วทั้งร่างกาย เนื่องจากท่าโยคะต่างๆ นั้นเป็นการบริการตั้งแต่หัวจรดเท้า

•อาการปวดตามส่วนต่างๆ ในร่างกายจะลดลง : ยกตัวอย่างสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง หลังจากคุณฝึกโยคะร่างกายจะมีพัฒนาการในด้านการยืดหยุ่นและความแข็งแรงเพิ่มขึ้น คนที่ปวดหลังส่วนมากเกิดจากการนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หรือขับรถเป็นเวลานานๆ ซึ่งอาจจะทำให้เส้นตึง ยึด หรือเส้นประสาทที่กระดูกสันหลังถูกกดทับ ซึ่งถือว่าโยคะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้เหมาะสมอย่างยิ่ง นอกจากนี้ผู้ฝึกจะมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น

•มีการหายใจที่ดีขึ้น: คนส่วนมากมักจะหายใจไม่ลึกและไม่ให้ความสำคัญกับการหายใจเท่าที่ควร การหายใจแบบโยคี (Pranayama) เป็นการฝึกที่ต้องเพ่งความสนใจไปที่ลมหายใจและฝึกให้เราหายใจโดยใช้ปอดอย่างเต็มกำลังความสามารถซึ่งร่างกายทุกส่วนจะได้รับประโยชน์ การหายใจแบบโยคีมีหลายประเภทมาก บางประเภทช่วยให้ช่องทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้น บางประเภทช่วยทำให้ระบบประสาทส่วนกลางที่เกี่ยวกับการทำงานของร่างกาย (central nervous system) สงบและผ่อนคลาย ทั้งนี้ผู้ฝึกจะได้รับประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

•โยคะเป็นการออกกำลังกายที่ใช้น้ำหนักตัวเองช่วย (weight bearing): ซึ่งจะช่วยให้ความหนาแน่นของกระดูกเพิ่มขึ้น เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงวัยทองผู้เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน (osteoporosis) และกระดูกบาง (thinning of the bone)


ประโยชน์ทางด้านจิตใจ 

•ทำให้จิตใจสงบ: โยคะถือเป็นการออกกำลังกายที่ใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายข้อนข้างมาก แต่ในขณะเดียวกันหัวใจสำคัญของโยคะก็คือการฝึกให้จิตใจมีความสงบ อาจกล่าวได้ว่าโยคะก็คือการทำสมาธิแบบเคลื่อนไหวนั่นเอง(โยคีเป็นผู้คิดค้นโยคะ พวกเขาจะฝึกโยคะก่อนนั่งสมาธิ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจมีความพร้อมต่อการทำสมาธิ.....ลองนึกถึงพวกโยคีที่นั่งสมาธิเป็นวันๆ โดยไม่ขยับ การที่จะนั่งได้นานเช่นนั้นโยคะสามารถช่วยได้เนื่องจากร่างกายมีพลังและจิตใจมีความสงบมากหลังฝึกโยคะเสร็จ)

•ผ่อนคลายความเครียด: เป็นที่ทราบกันว่าการออกกำลังกายสามารถคลายความเครียดได้ โดยเฉพาะโยคะนั้นถือเป็นความจริงอย่างยิ่งเนื่องจากผู้ฝึกจะต้องมีโฟกัสอย่างสูงในขณะฝึก การที่เราเพ่งจิตไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง (concentration) สิ่งที่เรากังวลใจอยู่ในวันนั้น ณ เวลานั้น ไม่ว่าปัญหานั้นจะใหญ่หรือเล็กก็จะไม่ถูกสะกิดขึ้นมาในขณะที่เรามีสมาธิอยู่กับการฝึก ถือว่าเป็นการช่วยให้ร่างกายได้พักร้อนจากความเครียดและความกังวล และอาจเพิ่มทัศนคติที่ดีของผู้ฝึก (เนื่องจากจากเขาได้ตัดความกังวลออกไป) โยคะให้ความสำคัญกับการอยู่กับปัจจุบัน (being in the present moment) สามารถช่วยลดความเครียดได้เพราะผู้ฝึกจะไม่ไปยึดติดอยู่กับอดีตหรือกังวลกับอนาคต ช่วยให้เราสามารถเดินออกจากห้องฝึกด้วยความรู้สึกเครียดที่น้อยลงกว่าตอนก่อนฝึก

•มีความสามารถที่จะรู้จัก เข้าใจ และแยกแยะส่วนต่างๆ ของร่างกาย (body awareness) : ผู้ฝึกโยคะจะมีความตระหนักถึงความรู้สึกในร่างกายของตนเอง เพราะในการฝึกนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบร่างกายที่ค่อนข้างละเอียดเพื่อปรับปรุงและทำให้ท่าโยคะแต่ละท่าถูกต้อง หลังจากฝึกเป็นระยะเวลานานผู้ฝึกก็จะรู้สึกว่าร่างกายของตนนั้นมีความสบายมากขึ้น เราจึงเห็นว่าผู้ที่เล่นโยคะเป็นเวลานานมีบุคลิกภาพและท่าทางของร่างกายที่ดีขึ้นและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
ประโยชน์ทางระบบหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ Cardiovascular System

•ผู้ที่ฝึกโยคะแบบเบาๆ สามารถลดระดับความดันหิตให้ต่ำลงได้เพราะว่าท่าโยคะ (asana): ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกายในขณะที่ผู้ฝึกโฟกัสไปที่ลมหายใจ

•หฐโยคะ(hatha ภาษาอังกฤษออกเสียงว่าฮาตะ) สามารถทำให้อาการของความตึงตัวมากเกินไปของร่างกาย (hypertension)ลดลงได้: เช่นเดียวกับอัตราการเต้นของหัวใจและความดันที่ต่ำลง
•ผู้เล่นโยคะเป็นจำนวนมากยืนยันว่าโยคะทำให้คลอเรสเตอรอลลดลง (เพราะระดับคลอเรสเตอรอลนั้นสัมพันธ์กับระดับความเครียด)

•พาวเวอร์โยคะถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งซึ่งทำให้หัวใจ ระบบไหลเวียนเลือดและระบบหายใจทำงานดีขึ้น (cardio exercise): เนื่องจากผู้ฝึกต้องใช้กล้ามเนื้อกลุ่มใหญ่ของร่างกายอย่างเป็นจังหวะและต่อเนื่อง (กล้ามเนื้อกลุ่มใหญ่อาทิ กล้ามเนื้อขา หน้าท้อง หลัง และแขน)

ประโยชน์ทางสุขภาพอื่นๆ
•ช่วยกำจัดอาการปวดหัวและไมเกรน เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนดีขึ้น ความเครียดลดลง นอนหลับง่ายขึ้น ล้วนแล้วแต่ช่วยแก้โรคไมเกรนที่ต้นเหตุทั้งสิ้น

•การฝึกโยคะเป็นประจำสามารถช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ(antioxidant)ทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย (immune system)แข็งแรงขึ้น มีผลให้ไม่ป่วยง่ายและอาการป่วยต่างๆ หายเร็วขึ้น

•โยคะช่วยลดน้ำหนัก (การฝึกพาวเวอร์โยคะร่างกายจะเผาไหม้แคลอรีสูง ซึ่งช่วยในการลดน้ำหนัก) ผู้ฝึกโยคะเป็นประจำจะมีน้ำหนักตัวที่อยู่ในระดับที่สมดุล

•โยคะช่วยรักษาโรคนอนไม่หลั หากฝึกโยคะเป็นประจำจะทำให้นอนหลับลึกขึ้น

•ช่วยลดอาการเหนื่อยง่ายและทำให้มีพลังมากขึ้นตลอดวัน

สรุปก็คือโยคะถือเป็นการออกกำลังกายที่ให้ประโยชน์มากต่อผู้ฝึกทั้งทางร่างกาย จิตใจ ความรู้สึก เรียกว่าครบรูปแบบ การฝึกฝนที่ต่อเนื่องประกอบกับการดำเนินชีวิตอย่างมีสติและใส่ใจต่อร่างกายก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคร้าย และแถมด้วยหุ่นสวยๆ อีกด้วย 

http://www.oknation.net/blog/miracleme/2013/02/12/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น